Q-Switch

ตื่นมาแล้วหน้าหมองคล้ำคงเป็นอะไรที่หลายๆคนไม่อยากเจอ แต่ว่าเราสามารถแก้ปัญหาได้วิธีที่เร่งรัด โดยการทำเลเซอร์ แต่ว่าการทำเลเซอร์ก็ต้องยิงโดยแพทย์ที่ชำนาญและมีประสบการณ์ รวมถึงต้องวิเคราะห์ลักษณะผิวของลูกค้าว่า “เหมาะที่จะรักษาผิวหน้าด้วยเครื่องเลเซอร์หรือไม่?” อีกทั้งบางคนก็กังวล เรื่องฝ้า กระจุดด่างดำ เป็นอะไรที่เป็นปัญหากวนใจหลายคน
จึงได้มีการนำเลเซอร์ที่ตอบโจทย์เกี่ยวกับปรับสภาพสีผิวที่ใบหน้า และปรับลดเม็ดสีโดยเฉพาะฝ้า กระ ให้ดูจางลง เรามาดูกันดีกว่าว่าเลเซอร์ Q-Switch ตัวนี้คืออะไร?
เลเซอร์แก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ Q-Switch คือ?
นวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับคนที่กังวล ฝ้ากระ จุดด่างดำ รอยดำแดงสิว สีผิวไม่สม่ำเสมอ รวมถึงปัญหาหลุมสิวที่ทำให้ตื้นขึ้น พร้อมปรับให้ผิวดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น ซึ่งการทำงานของเครื่องนี้จะใช้เครื่องเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 532 และ 1,064นาโนเมตร ซึ่งเป็นค่าความยาวคลื่นที่ลงไปสู่เม็ดสีผิวของชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้สามารถกำจัด กระลึก และกระตื้น รวมถึงจัดการเม็ดสีผิวทั้งระดับตื้นและระดับลึก ทำให้ปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอมากขึ้น
ซึ่งแตกต่างจากเครื่อง IPL เพราะว่าเครื่อง IPL จะเป็นเพียงพลังงานแสงที่มีความยาวคลื่น 420-1,200 นาโนเมตร ซึ่งเป็นค่าพลังงานแสงกว้างๆ ไม่ได้จำเพาะเหมือนเครื่องนี้ ทำให้เครื่อง Q-Switch เห็นผลลัพธ์เรื่องการรักษาฝ้า กระจุดด่างดำได้ดีกว่า แต่ยังไงก็ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อลดการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการ
Q-SWITCH : ทำอะไรได้บ้าง?

Skin Rejuvenation
การปรับให้หน้าดูกระจ่างใสขึ้น และฟื้นฟูสภาพผิวให้ดีขึ้น

Acne Scar, Wrinkle
การรักษารอยแผลเป็นสิว และริ้วรอย

Dermal Pigment
เป็นการปรับเม็ดสี ชั้นผิวหนัง

Acne, Reduce Sebum
การรักษาสิว และการกำจัดต่อมไขมัน สาเหตุที่ทำให้เกิดสิว

Tattoo Removal
การลบรอยสัก

PIH
การรักษารอยดำหลังทำเลเซอร์

Pore Size Reduction
การกระชับรูขุมขน

Melasma
การรักษา ฝ้า กระจุดด่างดำ

Epidermal Pigment
การปรับเม็ดสีผิวชั้นบน

Hair Removal
การกำจัดขน

Pink Lip, Pink Nipple
การทำปากชมพู และหัวนมชมพู
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น จากการทำ Q-SWITCH

ผิวขาวขึ้นบริเวณที่เลเซอร์
ซึ่งสีจะกลับมาปกติ ใน 1 เดือน

รอยคล้ำหลังจากทำเลเซอร์
จะจางหายใน 1 - 3 เดือน

รอยดำอาจเข้มขึ้น
โดยผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นไม่ได้น่ากังวล หรืออันตรายอย่างที่คิดนะคะ เพราะว่าผิวขาวที่เกิดจากเลเซอร์ ก็จะปรับสภาพผิวได้เองจากการที่เราโดนแดด รวมถึงเม็ดสีของร่างกายเรา ปรับให้เหมือนเดิม
ส่วนรอยคล้ำหลังทำเลเซอร์ตัวนี้ อาจเกิดได้จากการที่ตั้งค่าพลังงานเครื่องค่อนข้างสูง และความถี่สูงทำให้ผิวมีการสะสมพลังงาน เลยเกิดรอยคล้ำขึ้น รวมถึงรอยดำก็อาจเข้มขึ้นในช่วงแรกค่ะ แต่ทั้งหมดก็สามารถหายได้เอง และผิวก็จะกลับสู่สภาพปกติ แต่อย่างไรก็ตามก็ควรบำรุงผิวเพิ่มเติมด้วยค่ะ
ข้อห้ามสำหรับการทำเลเซอร์

ตั้งครรภ์

โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ลงชัก เป็นต้น

มีประวัติเริม ที่ใบหน้า

มีผิวหนังที่กำลังอักเสบ

สีผิวคล้ำเกินไป หรือโดนแดดจัด ก่อนการรักษาในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา

คนที่คาดหวังผลการรักษามากเกินไป
จริงๆเลเซอร์มีเยอะมากเลยค่ะ แต่อยากฝากกันไว้ว่า “ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับเลเซอร์” เพราะมีเรื่องของการดูแลตัวเอง โดยเฉพาะการโดนแดด ก็ไม่ควรทำในคนที่ต้องออกกลางแจ้งเป็นประจำ รวมถึงมีปัญหาผิวแห้งก็อาจทำให้ผิวไม่แข็งแรง แล้วก็ทำให้ยิ่งคล้ำขึ้น
รวมถึงการที่ใครๆก็ใช้เครื่องเลเซอร์ได้ เพียงแค่เปิดเครื่อง แล้วก็กดปุ่มยิง แต่ว่าการยิงที่ได้ผลและเห็นผลดี ต้องเกิดจากความชำนาญและความเข้าใจในการตั้งค่าพลังงาน
เพราะต่อให้ยิงด้วยเครื่องเดียวกัน พลังงานเท่ากัน แพทย์คนเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ก็สามารถต่างกันได้!! เพราะว่าสภาพผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความแข็งแรงของผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ฝ้ากระจุดด่างดำที่กระจายตัวในแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ต่างกัน ดังนั้นปัจจัยที่สำคัญคือสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคนค่ะ
รวมถึงที่สำคัญต้องมีความรู้แยกให้ได้ว่า ปัญหาที่คนไข้กังวล ต้องแก้ปัญหาด้วยอะไรกันแน่? ใช่วิธีแค่เลเซอร์อย่างเดียวหรือเปล่า? แต่จริงๆแล้วไม่มีการรักษาไหนที่อาศัยแค่การยิงเลเซอร์ แต่ต้องรักษาร่วมกับอย่างอื่น อาทิ การทานยาลดฝ้า, การทาครีมบำรุงหลังเลเซอร์, การทาครีมกันแดด เป็นต้น
ถาม-ตอบ การฉีดPRP หน้าใส
เรื่องของเลเซอร์เป็นอะไรที่ต้องใจเย็นๆ เพราะว่าการยิงแต่ละครั้งได้ สภาพผิวต้องพร้อมและแข็งแรง โดยปกติในครั้งแรกก็เห็นการเปลี่ยนแปลง แต่อาจไม่หมด เพราะฝ้ากระจุดด่างดำจะได้แค่จางลง ไม่สามารถหายได้ 100% และการยิงแต่ละครั้งแนะนำว่าผิวควรมีความชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้านเพื่อลดการเกิดผลข้างเคียง
ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องของการดูแลเป็นสำคัญ การที่เราซื้อคอร์สเพื่อยิงเลเซอร์ โดยที่เราไม่เข้าใจเลยว่าในการยิงแต่ละครั้งสภาพผิวของเราเสียน้ำ เสียความชุ่มชื่นออกไปด้วย ดังนั้นเราควรทำให้ผิวชุ่มชื่นหลังมีการยิงเลเซอร์ทุกครั้ง โดยการทา Moisturizer และครีมกันแดด รวมถึงหลีกเลี่ยงแสงแดด
ในการรักษาแต่ละครั้ง ถ้าทำตามคำแนะนำก็จะดีขึ้นตามลำดับทุกครั้ง และปกติการรักษาฝ้า กระ แค่ประมาณ 5-10ครั้งก็จะเห็นผล การเปลี่ยนแปลงในระดับที่พึงพอใจ
จริงๆฝ้าเป็นอะไรที่สามารถเกิดเพิ่มได้ตลอดเวลา จากหลายปัจจัยไม่ว่าจะแสงแดด กรรมพันธ์ เชื้อชาติ ฮอร์โมน เพศ เป็นต้น ทำให้ฝ้าสามารถกลับมาได้ หรือเพิ่มขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นเราควรป้องกันก่อนเกิดฝ้าดีที่สุด ทำให้ถึงแม้จะไม่ยิงแล้ว ก็อาจมีฝ้าเพิ่มขึ้นได้